ผบ.ตร.ประเดิม เชือดรตอ. หัวหน้าแก๊งโจร คุมขโมยเครื่องจักร ออกหมายจับล่าตัว

[ibl]

ผบ.ตร.ประเดิม เชือดรตอ. หัวหน้าแก๊งโจร คุมขโมยเครื่องจักร ออกหมายจับล่าตัว
ออกหมายจับล่า ร.ต.อ. หัวหน้าแก๊งโจรกรรมเครื่องจักร หลังถูก 4 ผู้ต้องหาซัดทอดเป็นคนสั่งการ และถูก ผบ.ตร.สั่งเชือดดาบแรกเด้งเข้ากรุ ล่าสุดชุดสืบสวนขยายผลตามรวบได้อีก 5 หนึ่งในนั้นเป็นมือขวาผู้กองทำหน้าที่นำขดลวดทองแดงหม้อแปลงไฟฟ้าไปขายร้านของเก่า ได้เงิน 5 หมื่น ก่อนแบ่งให้ลูกน้อง 1 หมื่น ตำรวจตามยึดรถใช้ก่อเหตุ ขณะที่เจ้าตัวลาราชการไม่มารายงานตัวอ้างพาเมียไปหาหมอ อยู่ระหว่างเจรจาให้มอบตัว

ออกหมายจับ ร.ต.อ.หัวหน้าแก๊งโจรกรรมเครื่องจักร ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 13 ต.ค. กรณี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ย้าย ร.ต.อ.ไอศูรย์ ดาทอง รอง สว.สส.สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มาปฏิบัติราชการประจำศูนย์ปฏิบัติการ ภ.จ.ชลบุรี หลังถูกกลุ่มผู้ต้องหาแก๊งลักทรัพย์ 4 คนซัดทอดว่าเป็นคนสั่งให้เข้าไปลักเครื่องจักรขนาดใหญ่ หม้อแปลงไฟฟ้า รถบดถนน มูลค่ากว่า 10 ล้านบาทภายในโรงงานรับซื้อของเก่าบริษัท เปเปอร์มิ้นท์ หมู่1 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สร้างความเสื่อมเสียให้วงการตำรวจอย่างมาก

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวสั่งการไปที่ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี ขอรายละเอียดเกี่ยวกับตำรวจคนนี้ ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตำรวจคนนี้เป็นอย่างไร เบื้องต้นให้มาปฏิบัติราชการประจำศูนย์ปฏิบัติการ ภ.จ.ชลบุรี แล้ว และตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ถ้าหากพบว่ามีมูลให้ดำเนินการทางวินัยร้ายแรง รวมถึงหากเข้าข่ายการกระทำผิดทางอาญาฯต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด กำชับให้เร่งสืบสวนทั้งวินัยและอาญาให้แล้วเสร็จและรายงานผลให้ตนทราบภายใน 3 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรับคำสั่ง พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี มีคำสั่งที่ ภ.จ.ชลบุรี 345/2567 ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2567 ให้ ร.ต.อ.ไอศูรย์ ดาทอง รอง สว.สส.สภ.นาจอมเทียน มาปฏิบัติราชการประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการ ภ.จ.ชลบุรี โดยขาดจากตำแหน่งเดิม นอกจากนี้ยังให้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ถ้าหากพบว่ามีมูลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางวินัยร้ายแรงโดยทันที รวมถึงหากเข้าข่ายการกระทำผิดทางอาญาฯต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดไม่มีการละเว้น เพื่อให้เป็นแบบอย่างต่อข้าราชการตำรวจที่มีพฤติกรรมดังกล่าว


ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนขยายผลคดีดังกล่าว ช่วงเช้าพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง สอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 คนเพิ่มเติม มีนายวัชรากร แสนวงษ์ อายุ 35 ปี นายไกรลาศ สีมา อายุ 33 ปี นายสมศักดิ์ เกิดโพธิ์ อายุ 54 ปี และนายชัยชนะ ภุมมารักษ์ อายุ 22 ปี ขณะนี้ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีกำลังเช็กประวัติว่าผู้ต้องหาเคยถูกสั่งให้ไปโจรกรรมทรัพย์สินผู้เสียหายที่ใดอีกบ้าง และเชื่อว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน อยู่ระหว่างติดตามตัวมา
ดำเนินคดีเพิ่มเติม

ล่าสุดชุดสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 5 คน นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.บางละมุง มี พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี เดินทางไปสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด ประกอบด้วย นายศลิษฏ์ หรือเนส พิมเสน อายุ 33 ปี นายประพันธ์ หรือหมอ เรืองเดช อายุ 45 ปี นายสุพล หรือดำ โพธิ์เผือก อายุ 28 ปี นายจีระวัฒน์ หรือแฮม สุวรรณทานอายุ 30 ปี และนายพงษ์ศักดิ์ หรือปื๊ด ห้วยใหญ่ อายุ 43 ปี คนสนิท ร.ต.อ.ไอศูรย์ หรือผู้กองยา หัวหน้าแก๊งที่อยู่เบื้องหลังสั่งการทั้งหมด หลังสอบปากคำตำรวจคุมตัวทั้งหมดฝากขังศาลจังหวัดพัทยา

มีรายงานว่า ก่อนจับกุม พ.ต.ท.ศุภวัฒน์ ลัทธปรีชา รอง ผกก.ป. รรท.ผกก.สภ.บางละมุง พร้อม พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส. และชุดสืบสวนได้ตัว 1 ในแก๊งลักทรัพย์ ได้รับคำสั่งจาก ร.ต.อ.ไอศูรย์ ให้ขับรถกระบะนำอุปกรณ์ที่ใช้โจรกรรมพวกเครื่องตัดเหล็ก เครื่องมือหนัก รวมถึงให้มาช่วยขนเหล็กบริเวณด้านหลังโรงงาน ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวมาสอบสวนและให้การที่เป็นประโยชน์สามารถเชื่อมโยงหลักฐานสาวไปถึงตัวละครที่เกี่ยวข้องในคดีทั้งหมด โดยเฉพาะ ร.ต.อ.ไอศูรย์ ที่มีการใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อสั่งการ พนักงานสอบสวนกันตัวไว้เป็นพยาน

ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ใช้ในโรงงาน (3 เฟส) กำลังไฟ 250 กิโลโวลต์ที่ถูกโจรกรรมมาจากโรงงานที่เกิดเหตุและถูกคนร้ายนำไปชำแหละเอาลวดทองแดงไปให้ ร.ต.อ.ไอศูรย์ ก่อนส่งขายที่ร้านรับซื้อของเก่าใน ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายที่บุกไปขโมยหม้อแปลงเป็นคนละชุดกับผู้ต้องหาที่ถูกจับก่อนหน้านี้ กระทั่งตำรวจติดตามจับผู้ต้องหาได้เพิ่ม 5 คน เบื้องต้นทั้งหมดให้การว่าได้รับคำสั่งจากผู้กองยาไปขโมยหม้อแปลงไฟฟ้าโรงงานดังกล่าวเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนนำชำแหละได้ลวดทองแดงน้ำหนักเกือบ 100 กิโลกรัม Bl88bet

จากการสอบสวนพบว่านายพงษ์ศักดิ์ หรือปื๊ด ห้วยใหญ่ ผู้ต้องหาที่เป็นคนสนิทของ ร.ต.อ.ไอศูรย์ เป็นคนขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ขน 7276 ระยอง ของผู้กองยานำลวดทองแดงน้ำหนักเกือบ 100 กิโลกรัมไปขายให้กับโรงรับซื้อของเก่าได้เงินมา 50,000 บาท และผู้กองยาให้เงินมา 10,000 บาท เพื่อนำไปแบ่งให้ทีมงานคนอื่นๆ ขณะนี้ตำรวจตามยึดรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ของผู้กองยาได้ที่บ้านในท้องที่ สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา ขณะที่ ร.ต.อ.ไอศูรย์หลังถูกคำสั่งย้ายด่วนไปช่วยงาน ศปก.ภ.จ.ชลบุรี ยังไม่ได้เดินทางเข้ารายงานตัวกับผู้บังคับบัญชา อ้างว่าพาภรรยาไปผ่าตัดที่ จ.อุดรธานี พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อออกหมายจับ เนื่องจากหลักฐานแน่นหนามากพอว่าเป็นผู้สั่งการอยู่เบื้องหลังทั้งหมด

เย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รอง ผบช.ภ.2 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 2 เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดพัทยาอนุมัติออกหมายจับ ร.ต.อ.ไอศูรย์ ดาทอง รอง สว.สส.สภ.นาจอมเทียน เลขที่ 544 / 2567 ฐานความผิด "ร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คน ขึ้นไป, โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นโดยประการใดๆ หรือรับของโจร" เบื้องต้นเจ้าตัวถูกย้ายมาปฏิบัติราชการประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการ ภ.จ.ชลบุรี แต่ลาราชการไม่มารายงานตัว ภายหลังศาลออกหมายจับก็ยังไม่ติดต่อเข้ามอบตัว ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเจรจาพูดคุยให้เข้ามอบตัว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในคดี ที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชากำชับกรณีตำรวจประพฤติไม่ดีเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดทั้งอาญาและวินัย จะไม่เลี้ยงไว้หรือช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้น ไม่มีมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน