วิษณุ เปิด 3 ต้นตอใหญ่ ทำวงการตำรวจวุ่นวาย ระบุ ‘บิ๊กโจ๊ก’ ยังมีลุ้นเก้าอี้ผบ.ตร

[thanin]

วิษณุ เปิด 3 ต้นตอใหญ่ ทำวงการตำรวจวุ่นวาย ระบุ 'บิ๊กโจ๊ก' ยังมีลุ้นเก้าอี้ผบ.ตร
วิษณุ แจงผลสอบศึกสีกากี ส่ง 'บิ๊กต่อ' คืน ผบ.ตร. ชี้คดีต่างๆทั้ง '2 บิ๊ก' ยังเดินหน้าต่อ เผยมี 3 ต้นตอใหญ่ ทำวงการตำรวจวุ่นวาย ระบุ 'บิ๊กโจ๊ก' ยังมีลุ้นเก้าอี้ผบ.ตร.แต่คดีต้องเคลียร์ก่อน

เมื่อเวลา 11.10น. วันที่ 20 มิ.ย.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แถลงกรณีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ที่มีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ เป็นประธานตรวจสอบในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.

โดยสรุปผลการตรวจสอบว่ามีความขัดแย้งเกิดขึ้นจริงภายใน ตร. ทั้งนี้ ความวุ่นวายของคดีดังกล่าว ต้องยอมรับว่ามาจากบุคคลภายนอกที่เข้ามาเกี่ยวข้อง บงการตำรวจ และมีต้นเหตุมาจาก 3 เรื่องใหญ่คือ ยาเสพติด พนันออนไลน์ และหนี้นอกระบบ ที่ทำให้เกิดความวุ่นวายเพราะเป็นต้นทางที่ต้องการเงินไปซื้อตำแหน่ง Admauto99

กรณีพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สมควรส่งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กลับ ตร. จึงเตรียมออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กลับไปรับตำแหน่ง ผบ.ตร. ตามเดิมเนื่องจากไม่มีอะไรให้สอบต่อ ส่วนคดีต่างๆ ให้ดำเนินการไปตามสายงาน ส่วนการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัยให้เป็นเรื่องของ ตร.

ขณะที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น เรื่องนี้เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2567 มีการออกคำสั่งซ้ำคำสั่งติดต่อกัน คือคำสั่งเรียกพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กลับตร. ตามด้วยคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนทันที จึงเป็นปัญหาและส่งเรื่องนี้ไปหารือคณะกรรมการกฤษฎีกา และมีมติต่อ 10 ต่อ 0 เห็นเป็นเอกฉันท์ว่าการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน กระทบต่อสิทธิและหน้าที่


กรณีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะต้องทำโดยคณะกรรมการสอบสวน แต่เรื่องนี้ไม่ได้ผ่านคณะกรรมการ ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่าไม่ถูกต้องและชอบธรรม จึงเห็นควรให้แก้ไขให้ถูกต้อง จึงเป็นอำนาจของตร. จะดำเนินการ ดังนั้น สถานภาพของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ระหว่างการนำความกราบบังคมทูลฯให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องตรวจสอบว่าทำถูกต้องตามระเบียบขั้นตอนกฏหมายหรือไม่ ขณะเดียวกันเรื่องนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้นำเรื่องไปฟ้องคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมตำรวจ ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา

นายกฯขอให้ทั้งสองฝ่ายปรองดองในทางราชการ ส่วนตัวใครจะทำผิดให้ว่าไปตาม กฎหมาย แต่ให้ทำงานเพื่อให้บังเกิดประโยชน์กับประชาชน ไม่ให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาและกระทบภาพลักษณ์ตำรวจ

"เชื่อว่าสถานการณ์ต่อจากนี้จะเบาบางลง เพราะตลอด 4 เดือน ทั้งสองฝ่ายได้พบพูดจา และกรรมการได้เข้าไปไกล่เกลี่ยในบางเรื่อง แต่ไม่ใช่การซูเอี๋ย หรือเป็นมวยล้มต้มคนดู เพราะมีคดีปักหลังกันทุกคน แต่ให้ทำงานร่วมกันต่อจากนี้ ไม่เช่นนั้นตร.จะไม่มีหัว มีแค่พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รักษาราชการแทนผบ.ตร. ที่ทำงานไม่ไหวจำเป็นต้องมีคนเข้าไปช่วย ตามนโยบายที่ต้องการแก้ไขใน 3 ประเด็นที่รัฐบาลจะดำเนินการ คือเรื่องยาเสพติด หวยพนันออนไลน์ และหนี้นอกระบบ" นายวิษณุ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามกรณีผลการสอบให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กลับตร. ถือเป็นการล้างมลทินให้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่ล้างมลทิน คดีเดินหน้าตามปกติ โดยคดีที่อยู่ในป.ป.ช. ก็ยังต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป กรณีนี้จะต้องมีข้อยุติว่าใครถูกใครผิด และต้องดำเนินคดีเหมือนบุคคลธรรมดาทั่วไป ทั้งนี้ การนำบุคคลทั้งสอง ออกมาจากตร.ก่อน เอาออกมาเพื่อตรวจสอบวินัยและคดีต่างๆ จนนำไปสู่การแก้ไขในอนาคต

เมื่อถามว่าการส่งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กลับตร. จะเกิดความสงบเรียบร้อย นายวิษณุ กล่าวว่า คงเรียบแต่ไม่ร้อย คงจะจบสงบไปได้และคงปรองดองในส่วนราชการ แต่จะมีอะไรกินใจ คงไม่กี่เดือนจะหาผบ.ตร.คนใหม่แล้ว ปัญหาอ่อนลง แต่คงไม่หมดไป เนื่องจากความขัดแย้งมีมาตั้งแต่ปี 2557

เมื่อถามว่ารายงานผลการสอบของคณะกรรมการฯ จะสะสางปัญหาในตร. และทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น นายวิษณุ กล่าวว่า อย่าใช้คำว่าสะสาง ฟังดูอาจจะคิดว่าเจ๊ากัน แต่ไม่ใช่เพราะจะต้องมีคนถูกและผิด และถูกดำเนินคดีเหมือนกับคนทั่วไป เรื่องนี้ไม่ใช่การฟอกขาวและไม่มีการฟอกขาวร แต่ให้ทั้งคู่กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองตามที่รับผิดชอบ อย่าวอกแวก ส่วนคดีในป.ป.ช.และหน่วยงานอื่นก็ไปต่อสู้คดีกันไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังมีโอกาสที่จะได้รับพิจารณาในการเป็นผบ. ตร หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สถานะของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ในระหว่างให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่ขั้นตอนยังไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้ ใครที่เป็นรองผบ.ตร. ก็มีโอกาสถูกพิจารณาขึ้นเป็นผบ.ตร.ได้ทั้งนั้น และในกฎหมายตำรวจได้เขียนไว้ว่า ไม่ให้เอาสาเหตุนี้มากำหนดไม่ให้บุคคลได้รับการพิจารณาในการดำรงตำแหน่ง

กรณีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หากจะพิจารณาเรื่องออกจากราชการ ทางตร.ต้องไปทำให้ถูกต้อง เพราะในรายงานของคณะกรรมการ มีระบุเอาไว้ว่าบุคคลทั้งสองทำไม่ถูกต้องในเรื่องอะไรบ้าง ส่วนจะชี้ว่าใครถูกใครผิดก็ไปก็ต้องไปที่หน่วยงานที่มีอำนาจพิจารณา

ทั้งนี้ ไม่ขอตอบว่าคำสั่งที่ให้ออกจากราชการไว้ก่อน เป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ ให้คนมีอำนาจชี้ขาด แต่มองว่าเป็นเรื่องปกติ เมื่อมีคำสั่งขอตัวกลับแล้วตั้งกรรมการสอบยังไม่เคยเห็นหน้ากัน ก็ปลดปุ๊บ ทำแบบปุ๊บปั๊บ ทางคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะ2 จึงบอกว่าให้ไปทำให้ถูกต้อง

เมื่อถามย้ำว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยังมีโอกาสลุ้นตำแหน่งผบ.ตรใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มี

เมื่อถามถึงเอกสารคำสั่งนายกรัฐมนตรีให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กลับตร.ที่หลุดออกมาก่อน นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้ว่าเอกสารหลุดได้อย่างไร แต่ทราบว่าก่อนว่า1-2 วัน ว่าจะกลับแต่ตัวคำสั่งยังไม่มีผล จนกว่านายกฯจะลงนาม