• Welcome to ADMauto99 เว็บพนันออนไลน์จ่ายเงินจริงที่ดีที่สุดในไทย 2024.
 

ไม่ใช่หลักล้าน เปิดยอด ค่าลิขสิทธิ์เพลง โต้ นัท เลอทาน่า เผยเรื่องอีกมุม

เริ่มโดย thanin, ก.ค 04, 2024, 10:23 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

thanin

ไม่ใช่หลักล้าน เปิดยอด ค่าลิขสิทธิ์เพลง โต้ นัท เลอทาน่า เผยเรื่องอีกมุม
ไม่ใช่หลักล้าน ตัวแทนลิขสิทธิ์ โต้ นัท เลอทาน่า ปม ค่าลิขสิทธิ์เพลง เผยความจริงอีกมุม เปิดยอดที่ต้องจ่าย ยัน เจ้าของโรงแรมดังละเมิด 10 เพลง จงใจเพื่อการค้า

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 ก.ค.2567 ที่สำนักงานทนายความ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายวรวิทย์ หรือ นิมมานศิริกุล หรือ ไบร์ท ตัวแทนลิขสิทธิ์เพลงของ นายฉัตรชัย ดุริยประณีต หรือ นก วงเฉลียง และ นายเสนีย์ ฉัตรวิชัย หรือ ปื๊ด วงอินโนเซ้นท์ พร้อมทนายความ เดินทางมาพบ ทนายรัชพล ศิริสาคร

เพื่อปรึกษาข้อกฎหมายจากกรณีที่ นัท เลอทาน่า หรือ นายกิตติพันธ์ ลี้ศัตรูพ่าย นักร้องและเจ้าของโรงแรมดังย่านบางพลี ให้ข่าวว่าถูกเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์เรียกเก็บเงินค่าละเมิดเป็นจำนวนเงินที่สูงถึง 1 ล้านบาทนั้น


ไม่ใช่หลักล้าน ตัวแทนลิขสิทธิ์ โต้ นัท เลอทาน่า ปม ค่าลิขสิทธิ์เพลง เผยความจริงอีกมุม เปิดยอดที่ต้องจ่าย ยัน เจ้าของโรงแรมดังละเมิด 10 เพลง จงใจเพื่อการค้า

นายวรวิทย์ กล่าวว่า ตนซึ่งเป็นตัวแทนของพี่ ๆ ผู้ประพันธ์เพลงและได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ดูแลการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงดังกล่าวอยู่ก่อนหน้านี้ ช่วงประมาณเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนไปพบว่าเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยการนำเพลง "ทนได้ทนไป" ซึ่งเป็นหนึ่งในบทเพลงที่ตนดูแลเรื่องลิขสิทธิ์อยู่ ไปร้องไปดัดแปลงทำดนตรีใหม่โดยเล่นอยู่ในโรงแรม Admauto99


และมีการอัดคลิปไปลงแพลตฟอร์มในโซเซียล โดยมีการนำโลโก้โรงแรมมาใส่ในคลิปที่เผยแพร่ด้วย โดยไม่ได้มีการขออนุญาตนำเพลงไปใช้อย่างถูกต้อง เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อการค้าอย่างชัดเจน เพราะทางผู้ที่นำเพลงไปร้องซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรม ได้พีอาร์ประชาสัมพันธ์โรงแรม ขายเครื่องดื่ม ห้องพัก และยังมีรายได้จากแพลตฟอร์มที่นำคลิปไปลงอีกช่องทางหนึ่งด้วย

หลังพบว่านักร้องเจ้าของโรงแรมละเมิดลิขสิทธิ์เพลงแล้ว ตนได้ให้ทนายตรวจสอบหลักฐานการละเมิดลิขสิทธิ์และสอบถามไปยังผู้ประพันธ์เพลงต่าง ๆ พบว่า ผู้ประพันธ์เพลงไม่เคยได้รับการติดต่อขออนุญาตใช้เพลง ตนจึงติดต่อแจ้งกับเจ้าของโรงแรมเรื่องที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ไปเมื่อวันที่ 4 ม.ค.67


เพราะจากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงถึงจำนวน 10 เพลงด้วย จึงได้นัดหมายเจรจากัน โดยมีตัวแทนจากบริษัทที่เป็นผู้ดูแลเกี่ยวกับช่องออนไลน์การเผยแพร่ทางโรงแรมร่วมอยู่ด้วย ซึ่งการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงเรียกค่าละเมิดสิทธิจะอยู่ที่ขั้นต่ำ 1 แสนบาทต่อเพลง

ซึ่งตนก็ได้เรียกค่าเสียหายไปที่เพลงละ 1 แสนบาท 10 เพลงก็เท่ากับ 1 ล้านบาทพอดี แต่สุดท้ายมีการพูดคุยเจรจากันทั้ง 3 ฝ่าย คือฝ่ายตนผู้ถือลิขสิทธิ์เพลง กับทางนักร้องเจ้าของโรงแรมและฝ่ายกฎหมายของโรงแรม จนได้ตัวเลขสรุปจบกันที่ 3.5 แสนบาทต่อ 10 เพลงที่ถูกละเมิดไป เฉลี่ยแล้วตกเพลงละ 3.5 หมื่นบาท

ตนจึงได้แจ้งให้ผู้ประพันธ์รับทราบ ซึ่งผู้ประพันธ์ก็บอกว่า โดยปกติการขออนุญาตทำซ้ำดัดแปลงหนึ่งต้นแบบ จะคิดราคา 40,000-50,000 บาท ราคาเฉลี่ย 3.5 หมื่นบาทต่อเพลงนั้น นับว่าต่ำกว่าราคาที่ซื้อลิขสิทธิ์เพลงโดยปกติเสียอีก แต่ก็ให้สิทธิตนพิจารณาตามเห็นสมควร

ตนจึงได้ตกลงราคาที่ต่ำกว่าการซื้อลิขสิทธิ์เพลงปรกติ รวม 10 เพลง เป็น เงิน 3.5 แสนบาท ไปแจ้งให้กับทางทีมโรงแรม ว่าเหมาราคาสิบเพลงตามตกลงร่วมกัน แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับจากทางโรงแรมแต่อย่างใด

ต่อมาตนได้ให้ทนายส่งโนติสแจ้งให้ชำระค่าละเมิดลิขสิทธิ์ในเพลง "ทนได้ทนไป" ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2567 ไปที่บ้านเจ้าของโรงแรม แต่เขาก็เพิกเฉย ไม่มีการติดต่อกลับใด ๆ จึงได้ส่งไปในครั้งที่ 2 อีกวันที่ 17 ก.พ.2567 รอบนี้ส่งไปที่บ้านของเจ้าของโรงแรม และส่งไปที่บริษัทของโรงแรมด้วย

จากนั้นเจ้าของโรงแรมได้ให้ตัวแทนฝ่ายกฎหมายติดต่อกลับมาทางทนายของพี่นก ฉัตรชัย ผู้ประพันธ์เพลง ในวันที่ 19-23 ก.พ.2567 ทางทนายของพี่นกแจ้งตัวเลขตามเดิม คือ 3.5 แสนบาทต่อ 10 เพลง ตัวแทนฝ่ายกฎหมายของโรงแรมได้ขอเวลาไปแจ้งกับเจ้าของโรงแรมแล้วก็เงียบไป จนวันที่ 24 ก.พ.2567 ติดต่อไปอีกครั้ง แต่ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด


ทำให้ต่อมาทางทนายในวันที่ 5 มี.ค.2567 ทางทนายความได้เข้าแจ้งความเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ทนได้ทนไป เพียงแค่เพลงเดียวเพราะหวังจะให้โอกาสเจ้าของโรงแรมได้ติดต่อมาคุยกันให้จบ ถ้าหลังออกหมายเรียกแล้วคุยกับเจ้าของโรงแรมไม่ได้ หรือไม่ชำระ จึงจะไปแจ้งความเพลงที่เหลือ 9 เพลงตามไป

ต่อมาตำรวจได้ออกหมายเรียกนัดเจ้าของโรงแรมมาพบเพื่อทราบข้อกล่าวหา และให้ทางเจ้าของโรงแรมติดต่อกลับไปยังตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อชำระค่าละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย เพราะหลักฐานพยานที่ตำรวจตรวจสอบข้อมูลแล้ว มีการละเมิดลิขสิทธิ์จริง ๆ แต่ทางเจ้าของโรงแรมจะขอจ่ายเงินเพียง 1 แสนบาทเท่านั้น

ทำให้ตนผู้ดูแลลิขสิทธิ์ไม่สามารถตกลงกับเจ้าของโรงแรมได้ และยังพบเจอคลิปเพลงบางเพลงใน 10 เพลงดังกล่าวที่ได้แจ้งไป ยังคงค้างอยู่บ้างในบางแพลตฟอร์ม เพราะโรงแรมลงหลายแพลตฟอร์ม จึงไม่ได้ลบทั้งหมดอย่างที่ได้พูดไว้ในคลิปหลาย ๆ คลิปที่ออกมาพูดเรื่องคดี ทนได้ทนไป เพราะทนายตรวจเจออยู่จริง ๆ ในบางเพลง และที่แน่ ๆ คือคลิปสตรีมไลฟ์สดร้องเพลงที่เผยแพร่ในยูทูบ


เกือบทุก EP จะมีโลโก้ เครื่องหมายการค้าของโรงแรม เท่าที่ตรวจดู เจ้าของโรงแรม แทบไม่ได้ลบเลย ซึ่งคลิปเหล่านี้ได้สร้างผลประโยชน์รอบด้านให้กับโรงแรม เจ้าของโรงแรม อาจจะเข้าใจว่าทางเราไม่ได้มาดูตรงนี้ เพราะมันเป็นคลิปเพลงรวม คลิปยาวเป็นชั่วโมงและเยอะมาก เลยอาจจะนึกไม่ถึงว่าเราจะตรวจตรงนี้ด้วย

ระหว่างที่ตรวจดู ทนายก็เจอเพิ่มขึ้น ๆ จึงทยอยเก็บไปด้วยตามที่เจอ ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2567 ทนายได้ยื่นฟ้องในเพลงทนได้ทนไป 1 เพลงก่อน เพราะถ้ายื่นฟ้องพร้อมกันหมดทุกคดี ทุกเพลง อาจจะสร้างความวุ่นวายให้ทุกฝ่ายได้ อีกทั้งจะโดนมองว่าตั้งใจมาค้าความ เลยยื่นฟ้องแค่ 1 เพลงและการกระทำความผิดน้อยกรรมก่อน

อ่านข่าว : 'นัท เลอทาน่า' มอบ32บทเพลงที่แต่งเอง ให้ใช้ฟรี ชี้แม้ไม่ได้ดัง แต่อยากมอบความสุข
อ่านข่าว : นักร้อง-เจ้าของโรงแรม เล่าอุทาหรณ์ โดนค่าลิขสิทธิ์เป็นล้าน หลังลงคลิปเล่นดนตรีสด
เพราะยังมีความคิดว่า การยื่นฟ้องรอบนี้จะเป็นการทำให้เจ้าของโรงแรมได้มาคุยกับทางเรา เพราะก่อนหน้านั้นตนพยายามติดต่ออย่างเต็มที่แต่ติดต่อไม่ได้ โดนบล็อก ไม่รับสาย ให้ทนายติดต่อก็ไม่สำเร็จ ติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้าง มีบางครั้งที่ทนายติดต่อไป แต่ก็ยังคงไม่ได้คำตอบอีกเช่นเคย

เลยคิดว่าการฟ้องร้องครั้งนี้ หมายศาลจะทำให้เจ้าของโรงแรมได้เข้ามาเจรจาให้เรียบร้อย ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี เป็นเพียงการปกป้องสิทธิ์ของผู้ประพันธ์เพลงเท่านั้น เพราะถ้าหากตั้งใจดำเนินคดีอย่างจริงจัง สามารถฟ้องทีเดียวครบ 10 เพลงได้เลย แถมเพลงที่เหลือกรรมความผิดเยอะมาก ๆ ด้วย แต่เราไม่ทำเช่นนั้น

เพราะหวังว่า ถ้ามาคุยเพลงที่ฟ้องไปก่อน 1 เพลงได้จบ ก็จะได้เจรจาจ่ายในเพลงที่เหลือให้จบทั้งหมด ทางตนคิดแบบนี้ ไม่งั้นคงไม่พยายามติดตามเจรจามาอย่างยาวนานตั้ง 5 เดือนกว่า แต่ต่อมาการที่ทางเจ้าของโรงแรมไปอัดคลิปพูดถึงคดี เพลงทนได้ทนไป และเพลงอื่น ๆ ทำให้ผู้ประพันธ์เพลงและตนผู้รับมอบอำนาจ ถูกว่ากล่าวเสีย ๆ หาย ๆ ไปในวงกว้างมาก ๆ

โดยเน้นประเด็นเพลงละแสน สิบเพลงล้าน ซึ่งอันที่จริง ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยในราคา เพลงละประมาณ 3.5 หมื่นบาท 10 เพลงเป็นเงิน 3.5 แสนบาท มาตั้งแต่เดือนม.ค. ซึ่งเป็นเดือนแรกของการเจรจาและยึดถือตัวเลขนี้มาตลอด แต่ทางเจ้าของโรงแรมกลับพูดเน้นย้ำว่า ทางผู้รับมอบอำนาจ จะเก็บในราคา 1 แสนบาท รวม 10 เพลง เป็นเงิน 1 ล้านบาท


โดยไม่พูดข้อเท็จจริงทั้งหมด ว่าทางโรงแรมทราบราคา เฉลี่ยเพลงละประมาณ 3.5 หมื่นบาทต่อเพลง แล้วก็ไม่ติดต่อกลับมาเพื่อชำระค่าละเมิดลิขสิทธิ์เพลงให้เรียบร้อย ตามที่ตกลงกันไว้ในตอนแรกเป็นการไม่สมควรแล้ว เพราะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นในขั้นตอนต่าง ๆ มากมาย ค่าทนาย ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการดำเนินงานไปมากพอสมควร

อีกทั้งการอัดคลิปไม่พูดความจริงทั้งหมดให้ครบถ้วน การพูดของเจ้าของโรงแรม ทำให้คนในสังคมวงกว้าง มีความรู้สึกดูหมิ่น เกลียดชัง ผู้ประพันธ์เพลงและผู้รับมอบอำนาจ รวมถึงในคลิปของเจ้าของโรงแรม ได้นำสำเนาคำฟ้องมาแสดงเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลผู้เกี่ยวข้องในคดี ซึ่งเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง

ทางทีมผู้ประพันธ์เพลง จึงจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้ถูกต้อง เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิ์และศักดิ์ศรีของทุกคนในคดี ทนได้ทนไป ที่ถูกกล่าวถึง

ด้าน ทนายรัชพล กล่าวว่า ทางกฎหมายคือเขาใช้ความรู้ความสามารถมาแต่งเพลง มันเป็นผลงานสร้างสรรค์ของเขา หรือใครก็ตามที่เป็นศิลปินเขาก็มีลิขสิทธิ์ พอมีลิขสิทธิ์คนอื่นจะเอาไปร้องไปทำซ้ำไปดัดแปลง มันต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ ถ้าเกิดว่าไม่ขอแล้วเอาไปใช้ทางการค้า ตามกฎหมายก็มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี ปรับตั้งแต่ 100,000-800,000 บาท



รวมทั้งต้องมีการชดใช้เยียวยาค่าเสียหายด้วยตามกฎหมายแพ่งบวกอาญา เรื่องนี้ทางเจ้าของโรงแรมก็ยอมรับแล้วว่าเขาละเมิดจริง เพียงแต่ว่าข้อตกลงในส่วนของราคามันไม่ลงตัวกัน ถ้าเกิดว่าไม่ชดใช้ความเสียหายขึ้นมา แล้วเขาไม่ถอนแจ้งความจะมีโทษทางอาญา

ดังนั้นถ้าเกิดว่าตกลงกันไม่ได้ ตนสามารถเป็นตัวกลางได้ที่จะให้ไกล่เกลี่ยกัน แต่ต้องดูว่ายอดสุดท้ายแล้วอยู่ที่เท่าไหร่ ถ้าเกิดว่าทางพี่นกฉัตรชัย หรือคุณไมค์ หรือใครก็ตามไม่ยอม มันก็จะมีคดีอาญาตามมา เพราะฉะนั้นตรงนี้อยากฝากถึงเจ้าของโรงแรมลองคิดดูสักนิดหนึ่ง

ถ้าเกิดไม่จ่ายแล้วเขาดำเนินคดีอาญา มันต้องไปศาลแล้วสุดท้ายศาลจะสั่ง มันมีโทษจำคุกด้วยโทษปรับอีก แล้วต้องชดใช้ค่าเสียหายอีกเช่นกัน ก็อยู่ที่ว่าจะชดใช้ค่าเสียหายตรงนี้แล้วจบหรือจะไปชดใช้ในศาล อาจจะได้ชดใช้น้อยลงกว่าที่เขาเรียก แต่จะมีโทษจำคุกด้วยหรือเปล่าโทษปรับอีกหรือเปล่าก็ต้องพิจารณาในส่วนนี้ด้วย

ในเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์สมมุติว่าคุณไปร้อง หรือเอาไปดัดแปลงจากเพลงช้า ๆ เป็นเพลงรัก ก็เรียกว่าเป็นการดัดแปลงเพลง เข้าข่ายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ถ้าเกิดไม่มีการขออนุญาต ซึ่งในส่วนนี้ถ้าเอาไปเพื่อการค้า มันมีโทษจำคุก 6 เดือนถึง 4 ปี และปรับเป็นแสนถึง 800,000 บาท รวมทั้งในทางกฎหมายแพ่งต้องชดใช้ค่าเสียหายด้วย