• Welcome to ADMauto99 เว็บพนันออนไลน์จ่ายเงินจริงที่ดีที่สุดในไทย 2024.
 

ทันตแพทย์หญิง ร้อง หมอ เจ้าของคลินิกความงาม ฉีดฟิลเลอร์ทำหน้าพัง

เริ่มโดย thanin, ต.ค 02, 2024, 08:12 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

thanin

ทันตแพทย์หญิง ร้อง หมอ เจ้าของคลินิกความงาม ฉีดฟิลเลอร์ทำหน้าพัง
ทันตแพทย์หญิง ร้อง ปคบ. สอบ นายแพทย์ เจ้าของคลินิกเสริมความงามดังย่านสยาม ติดป้ายขนาดใหญ่กลางกรุง หลังฉีดฟิลเลอร์ ทำหน้าเบี้ยวทั้งครอบครัว สูญกว่า 1 ล้าน

วันที่ 2 ต.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธมนันท์ แตงทิม หรือ จ่าคิงส์ สะพานใหม่ พา ทันตแพทย์หญิง เกศริน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี เข้าพบ พ.ต.ท.ธีรภาพ ล้วนเส้ง รอง ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ปคบ.

เพื่อขอให้ตรวจสอบ นายแพทย์ เจ้าของคลินิกชื่อดังย่านสยาม หลังเข้าไปใช้บริการฉีดฟิลเลอร์ที่ใบหน้า เป็นเหตุให้หน้าเบี้ยวผิดรูป ต้องเสียเงินค่ารักษาไปกว่า 1 ล้านบาท

ทันตแพทย์หญิง ร้อง ปคบ. สอบ นายแพทย์ เจ้าของคลินิกเสริมความงามดังย่านสยาม ติดป้ายขนาดใหญ่กลางกรุง หลังฉีดฟิลเลอร์ ทำหน้าเบี้ยวทั้งครอบครัว สูญกว่า 1 ล้าน

ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนพร้อมแม่และพี่สาวไปใช้บริการฉีดใบหน้ากับนายแพทย์คนดังกล่าว ซึ่งอ้างว่าเป็นอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนังและเวชศาสตร์ฟื้นฟู มีคลินิกเสริมความงาม 3 สาขาทั่วประเทศ มีดารา อินฟลูเอนเซอร์หลายรายมาฉีดและโฆษณารีวิวจำนวนมาก โดยมีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ใจกลางกรุง ตนจึงหลงเชื่อเข้ารับการปรึกษาและฉีดฟิลเลอร์ Admauto99

ผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า โดยตนตกลงฉีดฟิลเลอร์ให้ตนเองที่ 15cc, พี่สาว 11cc ส่วนแม่ซึ่งอายุมาก แพทย์อ้างว่าไม่จำเป็นต้องศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า แค่ฉีดฟิลเลอร์ก็เห็นผลได้ โดยจะฉีดให้แค่ 30cc. แต่เมื่อฉีดเสร็จ กลับพบว่าปริมาณมากกว่าที่ตกลงกันไว้โดยไม่แจ้ง โดยฉีดให้ตน 18cc, พี่สาว 22cc, และแม่ 37cc พร้อมเรียกเก็บค่าหัตถการ จำนวน 1 ล้านบาท



ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า หลังจากฉีดไปแค่ 1 สัปดาห์ บริเวณช่วงใบหน้าของแม่ก็เริ่มหย่อนคล้อยไม่เท่ากัน มีรอยแยกเหนือคิ้วทั้ง 2 ข้าง ส่วนตนและพี่สาวใบหน้าเริ่มบิดเบี้ยวผิดรูป ส่งผลต่อสภาพจิตใจและหน้าที่การงาน เพราะไม่มั่นใจที่จะออกไปพบเจอผู้คนหรือคนไข้

ผู้เสียหาย กล่าวด้วยว่า จึงติดต่อกลับไปให้แพทย์ผู้ฉีดรับผิดชอบ ก็อ้างว่าจะแก้ไขให้ แต่ไม่ขอคืนเงิน ส่วนการแก้ไขคือฉีดสารสีใสบางตัวเข้าไปเพื่อช่วยสลายไขมัน ทำให้หน้าเท่ากัน แต่หลังฉีดไปแล้วปรากฏว่าหน้าเบี้ยวหนักกว่าเดิมอีก


ผู้เสียหาย กล่าวว่า ขณะที่พี่สาวก็ถูกแพทย์กดบีบใบหน้าอย่างรุนแรงจนฟิลเลอร์ไหลไปกองที่กระพุ้งแก้มจนผิดรูป ส่วนคุณแม่ แพทย์อ้างว่าที่ฉีดฟิลเลอร์ให้ไป 37cc นั้นไม่เพียงพอ หน้าถึงหย่อนคล้อย ต้องฉีดมากกว่า 50cc ซึ่งตนจึงไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ามากเกินไป

ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า จากนั้นจึงไปปรึกษากับอาจารย์แพทย์ที่สนิทกัน ก็ทราบสาเหตุที่ใบหน้าผิดรูป เพราะเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ที่มากเกินไป ตามปกติไม่ควรฉีดเกิน 10cc ต่อคน เพราะมีความเสี่ยงสูงที่ฟิลเลอร์จะหลุดเข้าไปในหลอดเลือดจนทำให้ตาบอดได้ หรืออาจไปกดทับผนังหลอดเลือดทำให้ตีบ หรือเกิดภาวะขาดเลือดได้

ผู้เสียหาย กล่าวต่อว่า ส่วนผู้สูงวัยนั้นจะต้องศัลยกรรมยกกระชับใบหน้าควบคู่กันไปด้วย ไม่ใช่อัดฟิลเลอร์เข้าไปเป็นจำนวนมาก ทางแก้คือต้องสลายฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป ตอนนี้ตนและครอบครัวต้องเข้ารับการรักษาสลายฟิลเลอร์อยู่ ค่ารักษาหลายหมื่นบาท ใบหน้าจึงเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังไม่กลับมาเป็นปกติ และไม่รู้ว่าจะกลับมาเป็นปกติเมื่อไหร่

ทันตแพทย์หญิง เกศริน กล่าวด้วยว่า ภายหลังตนไปตรวจสอบกับแพทยสภา ก็พบว่านายแพทย์คนดังกล่าวไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และเวชศาสตร์ฟื้นฟูตามที่กล่าวอ้าง เป็นเพียงแพทย์ทั่วไป ที่ผ่านมาเคยมีผู้เสียหายมาร้องเรียนไม่ต่ำกว่า 10 ราย ซึ่งแพทย์คนนี้ยังเคยท้าให้ไปฟ้องแพทยสภา สคบ. หรือ ศาล ได้เลยเพราะอย่างไรก็ไม่ชนะหรอก

"ดิฉันยอมรับว่าตนเองไม่รอบคอบ ไม่ตรวจสอบชื่อนายแพทย์คนดังกล่าวให้ดีก่อน เพียงดูรีวิวและเชื่อคำโฆษณาเหมือนคนทั่วไป ที่ต้องออกมาร้องเรียน เพราะต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะแพทยสภาและ สคบ. ออกมาจัดการอย่างจริงจัง เพราะถึงจะมีผู้เสียหายมากขนาดนี้ แต่คลินิกก็ยังเปิดบริการ ทำรายได้ปีละเป็นร้อยล้าน" ทันตแพทย์หญิง เกศริน กล่าว

ด้าน พนักงานสอบสวน เบื้องต้นได้รับเรื่อง พร้อมกับสอบปากคำผู้ร้องไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป