จับสึกแล้ว หลวงพี่พันล้าน วัดดังศรีสะเกษ โดน แพรรี่ แฉยับ โปรโมทเว็บพนัน

[thanin]

จับสึกแล้ว หลวงพี่พันล้าน วัดดังศรีสะเกษ โดน แพรรี่ แฉยับ โปรโมทเว็บพนัน
จับสึกแล้ว หลวงพี่พันล้าน วัดดังศรีสะเกษ โดน แพรรี่ ไพรวัลย์ แฉยับ โปรโมทเว็บพนัน เจ้าอาวาสทราบเรื่องจับสึกทันที ตร.เตรียมตรวจสอบ ผิดจริงดำเนินคดีแน่

กรณี แพรรี่ 'ไพรวัลย์ วรรณบุตร' โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ความว่า อันนี้เป็นเพจพระ หรือเป็นเพจอะไรคะ ทำไมในสตอรี่รับโปรโมทเว็บพนันด้วย กิจของสงฆ์หรอ ชาวบ้านเขาฝากดิฉันถามมาค่ะ ที่สำคัญการโปรโมทเว็บพนันผิดกฎหมายนะคะ ท่านทราบไหม ความผิดสำเร็จแล้วนะคะ

แหม่ ! วันนั้นยังเห็นโพสต์พาดพิงถึงดิฉันอยู่เลยนะคะ ว่าเก่งจริงสึกจะไปทำไม อ๋อ! ถ้าให้อยู่ในผ้าเหลืองแล้วหากินด้วยการโปรโมทเว็บพนันแบบนี้ ดิฉันก็ไม่ทำค่ะ ปล.หรือเพจโดนแอบอ้างคะ ช่วยชี้แจงด้วย ชาวบ้านเขาไม่สบายใจค่ะ

ทั้งนี้ เจ้าตัวได้โพสต์ภาพ จำนวนเงินโอนเข้าบัญชี รูปภาพเงิน และมีข้อความลักษณะเชิญชวนเล่นการพนัน

ต่อเรื่องดังกล่าว วันที่ 14 พ.ย.2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดแห่งหนึ่ง ในอ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เพื่อสอบถามข้อมูลกับ พระพัลลภ พลภัทโท หรือ หลวงพี่พันล้าน ซึ่งมีภาพโปรไฟล์ ลักษณะคล้ายกับพระภิกษุ ที่ แพรรี่ ได้กล่าวถึง แต่ไม่พบพระรูปดังกล่าวแต่อย่างใด

จากการสอบถามข้อมูลกับ กรรมการวัดแห่งนี้ เปิดเผยว่า จากการที่ดูภาพ พระรูปนี้อยู่ที่วัดแห่งนี้จริง และเป็นพระที่สอนอยู่โรงเรียนพระปริยัติธรรมภายภายในวัดแห่งนี้ แต่ตอนนี้ไม่ทราบว่า พระรูปนี้ไปไหน

โดยปกติจะเห็นพระรูปนี้ ขับรถเก๋งสีขาว ขับกลับไปกลับมาประจำ ส่วนในเรื่องที่มีการชักชวนเล่นการพนันนั้น ตนไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ ส่วนที่ตั้งฉายาว่า หลวงพี่พันล้าน นั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องการพนัน แต่เป็นศีรษะของหลวงพี่ที่ล้าน จึงเป็นที่เรียกกันแค่นั้นเอง

ต่อมาผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อกับเจ้าอาวาส แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงสอบถามข้อมูลกับ เณรภายในวัด ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (13 พ.ย.2567) เจ้าอาวาสได้ทำการสึกพระรูปนี้ไปแล้ว ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังเป็นประเด็นในเรื่องการพนันอยู่ในตอนนี้ และคาดว่าน่าจะกลับบ้านที่ อ.ปรางค์กู่

พ.ต.อ.นิลกาฬ พรศักดิ์ ผกก.สภ.อุทุมพรพิสัย เปิดเผยว่า Admauto99 ตอนนี้ได้ตรวจสอบข้อมูลที่นำมาโพสต์ในโลกออนไลน์ดังกล่าวว่าเป็นเฟซบุ๊กจริงหรือไม่ และถ้าหากเป็นเฟซบุ๊กของพระรูปดังกล่าวจริง จะประสานข้อมูลกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อหารือในเรื่องนี้

แต่ถ้าหากมีการสึกออกจากความเป็นพระ จะได้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป แต่ในตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล ซึ่งคาดว่าจะทราบผลในไม่กี่วัน